Learning log 13
Wednesday 21 November 2018
วันนี้อาจารย์ได้แนะนำเว็บในการทำคลิปและมีอธิบายให้นักศึกษาฟังว่าทำยังไงและได้ให้นักศึกษาไปทำคลิปมาส่งเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้ไปทำกิจกรรมกับเด็กมาจากนั้นอาจารย์ได้แนะนำการเขียนแผนผังพร้อมให้นักศึกษานำเสนอหหน่วยการเรียนรู้ของตัวเอง
แผนความคิดหน่วยยานพาหนะ มีดังนี้
1.ประเภทของยานพาหนะ
2.ลักษณะของยานพาหนะ
3.การดูแลยานพาหนะ
4.ประโยชน์ของยานพาหนะ
5.ข้อควรระวัง
กิจกรรม 6 กิจกรรม มีดังนี้
1.วันจันทร์ กิจกรรมเกมการศึกษา ในหัวข้อเรื่องประเภทของยานพาหนะ
2.วันอังคาร กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ในหัวข้อเรื่องลักษณะของยานพาหนะ
3.วันพุธ กิจกรรมเสรี ในหัวข้อเรื่องการดูแลรักษา
4.วันพฤหัสบดี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในหัวข้อเรื่องประโยชน์ของยานพาหนะ
5.วันศุกร์ กิจกรรมกลางแจ้ง ในหัวข้อเรื่องข้อควรระวัง
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงต่อเวลา
ประเมินเพื่อน :เพื่อนตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน
ประเมินอาจารย์ :อธิบายได้ละเอียดให้คำเสนอแนะนักศึกษา
Science Provision for Early Childhood
วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561
Learning log 12
Wednesday 14 November 2018
วันนี้อาจารย์ได้พานักศึกษาไปทำการทดลองกับเด็กที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมเสือใหญ่โดยการทำกิจกรรมของแต่ละฐานของตัวเองที่ได้เตรียมเอาไว้
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจทำกิจกรรม สนุกสนานไปกับเด็กๆ
ประเมินเพื่อน :เพื่อนสนุกสนานตั้งใจทำกิจกรรมของตัวเอง ให้ความร่วมมือกันทุกกลุ่ม
ประเมินอาจารย์ :อาจารย์น่ารัก อธิบายก่อนลงมือทำ
Wednesday 14 November 2018
วันนี้อาจารย์ได้พานักศึกษาไปทำการทดลองกับเด็กที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมเสือใหญ่โดยการทำกิจกรรมของแต่ละฐานของตัวเองที่ได้เตรียมเอาไว้
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจทำกิจกรรม สนุกสนานไปกับเด็กๆ
ประเมินเพื่อน :เพื่อนสนุกสนานตั้งใจทำกิจกรรมของตัวเอง ให้ความร่วมมือกันทุกกลุ่ม
ประเมินอาจารย์ :อาจารย์น่ารัก อธิบายก่อนลงมือทำ
Learning log 11
Thursday 8 November 2018
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มไปทำแผนผังความคิดเรื่องที่เราชอบและให้แต่ละกลุ่มเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนมาละคน 1 แผน 6 กิจกรรม โดยกลุ่มหนูเลือกหน่วย ยานพาหนะ
ดังนี้
1.ความหมาย
วัตถุหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย
2.ประเภทของยานพาหนะ
- ทางบก รถยนต์ รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถไฟ รถบรรทุก
- ทางน้ำ เรือ เรือหางยาว เรือประมง
- ทางอากาศ เครื่องบิน จรวด
- น้ำมัน
- แก๊สธรรมชาติ
- ดูแลความสะอาดและบำรุงยานพาหนะ
- ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ก่อนใช้งานทุกครั้ง
- ควรนำยานพาหนะทุกชนิดเก็บเข้าที่เมื่อไม่ต้องการใช้งาน
- ใช้ในการเดินทาง
- ใช้ในการขนย้ายสิ่งของ
- อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
- ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561
Learning log 10
Wednesday 7 November 2018
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคลิปของกลุ่มตัวเอง มีดังนี้
กลุ่มที่ 1 Shape of Bub-Bub Bubble
กลุ่มที่ 2 ลาวาปะทุ ภูเขาไฟระเบิด
กลุ่มที่ 3 ลูกโป่งพอโต
กลุ่มที่ 4 เรือดำน้ำ
กลุ่มที่ 5 ปั้มขวดและลิปต์เทียน
สิ่งที่จะต้องแก้ไข มีดังนี้
1.การอ่านขั้นตอนในการทดลองควรจะต้องมีไม้ชี้
2.ในการวาดสิ่งของต่างๆควรจะต้องมีป้ายชื่อติดว่ามันคืออะไร
3.การตั้งประเด็นให้เด็กเป็นคนตั้ง
4.การตั้งสมมติฐาน ขวดน้ำร้อนจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนำไปคว่ำกับน้ำสี
5.การพูดสรุป
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงต่อเวลา
ประเมินเพื่อน :เพื่อนตั้งใจฟังและนำเสนอคลิปของตัวเองแต่จะต้องนำคลิปไปแก้ไข
ประเมินอาจารย์ :แนะนำการพูดในแต่ละขั้นและชี้แนะในคลิปให้อย่างละเอียดเพื่อให้นักศึกษษนำไปแก้ไขและปฏิบัติจริงได้ถูกต้อง
Wednesday 7 November 2018
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคลิปของกลุ่มตัวเอง มีดังนี้
กลุ่มที่ 1 Shape of Bub-Bub Bubble
กลุ่มที่ 2 ลาวาปะทุ ภูเขาไฟระเบิด
กลุ่มที่ 3 ลูกโป่งพอโต
กลุ่มที่ 4 เรือดำน้ำ
กลุ่มที่ 5 ปั้มขวดและลิปต์เทียน
สิ่งที่จะต้องแก้ไข มีดังนี้
1.การอ่านขั้นตอนในการทดลองควรจะต้องมีไม้ชี้
2.ในการวาดสิ่งของต่างๆควรจะต้องมีป้ายชื่อติดว่ามันคืออะไร
3.การตั้งประเด็นให้เด็กเป็นคนตั้ง
4.การตั้งสมมติฐาน ขวดน้ำร้อนจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนำไปคว่ำกับน้ำสี
5.การพูดสรุป
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงต่อเวลา
ประเมินเพื่อน :เพื่อนตั้งใจฟังและนำเสนอคลิปของตัวเองแต่จะต้องนำคลิปไปแก้ไข
ประเมินอาจารย์ :แนะนำการพูดในแต่ละขั้นและชี้แนะในคลิปให้อย่างละเอียดเพื่อให้นักศึกษษนำไปแก้ไขและปฏิบัติจริงได้ถูกต้อง
Learning log 9
Wednesday 24 October 2018
การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้เด็ก มีดังนี้
1.สาระที่เด็กควรรู้
2.ประสบการณ์เรียนรู้ เช่น สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก บุคคลสถานที่และธรรมชาติรอบตัวเด็ก
ผู้สอนจะต้องมีเทคนิคที่จะทำให้เด้กได้คิดวิเคราะห์ เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมมาสู่ชีวิตประจำวันของเด็กและในส่วนการประเมินผลต้องใช้วิธีการสนทนาและให้เด็กได้ลงมือวาดรูปกิจกรรมการทดลองและอาจารย์ได้ให้นักศึกษษที่อัดคลิปววีดีโอมานำเสนอ
กิจกรรมที่ 16 ปริมาณน้ำในแก้วเท่ากันหรือไม่
สมมติฐานในการทดลอง
1.เมื่อเทน้ำลงในภาชนะที่มีขนาดต่างกันจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 หาภาชนะที่มีขนาดแตกต่างกันมา 3 ขนาดจากนั้นให้ใส่น้ำลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้โดยการใช้แก้วตวงน้ำให้เท่ากันและให้เด็กๆสังเกตการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
น้ำในทุกภาชนะมีขนาดเท่ากันเป็นเพราะว่าแก้วที่ใช้ตวงน้ำลงภาชนะมีขนาดเดียวกัน
กิจกรรมที่ 17 ลูกข่างหลากสี
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้าหมุนลูกข่างจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 ตัดกระดาษเป็นทรงกลมแล้วติดลูกปิงปองให้อยู่ตรงกลางของแผ่นกระดาษแล้วตกแต่งระบายสีให้สวยงาม
สรุปผลการทดลอง
เมื่อเราทำการหมุนลูกข่างจะเห็นแค่สามสี
กิจกรรมที่ 18 เรือแรงลม
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้าเป่าลมใส่แกนทิชชู่จะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำถ้วยโฟมมาเจาะรูตรงกลางและนำแกนทิชชูมาใส่ในรูที่เจาะไว้
สรุปผลการทดลอง
เรือสามารถเคลื่อนที่ได้เป็นเพราะแรงลมในการเป่า
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจฟังในสิ่งที่เพื่อนนำเสนอ เข้าเรียนตรงต่อเวลา
ประเมินเพื่อน :เพื่อนตั้งใจฟังในสิ่งที่เพื่อนออกไปนำเสนอ
ประเมินอาจารย์ :อธิบายละเอียดให้นำแนะนำกับเพื่อนที่ออกไปนำเสนอคลิปดีค่ะ
Wednesday 24 October 2018
การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้เด็ก มีดังนี้
1.สาระที่เด็กควรรู้
2.ประสบการณ์เรียนรู้ เช่น สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก บุคคลสถานที่และธรรมชาติรอบตัวเด็ก
ผู้สอนจะต้องมีเทคนิคที่จะทำให้เด้กได้คิดวิเคราะห์ เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมมาสู่ชีวิตประจำวันของเด็กและในส่วนการประเมินผลต้องใช้วิธีการสนทนาและให้เด็กได้ลงมือวาดรูปกิจกรรมการทดลองและอาจารย์ได้ให้นักศึกษษที่อัดคลิปววีดีโอมานำเสนอ
กิจกรรมที่ 16 ปริมาณน้ำในแก้วเท่ากันหรือไม่
สมมติฐานในการทดลอง
1.เมื่อเทน้ำลงในภาชนะที่มีขนาดต่างกันจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 หาภาชนะที่มีขนาดแตกต่างกันมา 3 ขนาดจากนั้นให้ใส่น้ำลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้โดยการใช้แก้วตวงน้ำให้เท่ากันและให้เด็กๆสังเกตการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
น้ำในทุกภาชนะมีขนาดเท่ากันเป็นเพราะว่าแก้วที่ใช้ตวงน้ำลงภาชนะมีขนาดเดียวกัน
กิจกรรมที่ 17 ลูกข่างหลากสี
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้าหมุนลูกข่างจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 ตัดกระดาษเป็นทรงกลมแล้วติดลูกปิงปองให้อยู่ตรงกลางของแผ่นกระดาษแล้วตกแต่งระบายสีให้สวยงาม
สรุปผลการทดลอง
เมื่อเราทำการหมุนลูกข่างจะเห็นแค่สามสี
กิจกรรมที่ 18 เรือแรงลม
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้าเป่าลมใส่แกนทิชชู่จะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำถ้วยโฟมมาเจาะรูตรงกลางและนำแกนทิชชูมาใส่ในรูที่เจาะไว้
สรุปผลการทดลอง
เรือสามารถเคลื่อนที่ได้เป็นเพราะแรงลมในการเป่า
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจฟังในสิ่งที่เพื่อนนำเสนอ เข้าเรียนตรงต่อเวลา
ประเมินเพื่อน :เพื่อนตั้งใจฟังในสิ่งที่เพื่อนออกไปนำเสนอ
ประเมินอาจารย์ :อธิบายละเอียดให้นำแนะนำกับเพื่อนที่ออกไปนำเสนอคลิปดีค่ะ
Learning log 8
Wednesday 17 October 2018
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะนำเอาไปจัดกิจกรรมให้เด็กได้ปฏิบัติจริงและได้ฝึกการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก โดยอาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มเลือกกิจกรรมมากลุ่มละ 1 กิจกรรม มีหลักการในการเขียนโครงการ ดังนี้
1.ชื่อโครงการ
2.หลักการและเหตุผล
3.เวลาและสถานที่ /งบประมาณ
4.ตารางการทำกิจกรรมต่างๆ
5.วิธีการประเมินผ
6.การแบ่งหน้าที่
ซึ่งกิจกรรมการทดลองในแต่ละกลุ่มจะต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.ตั้งชื่อกิจกรรมให้มีความน่าสนใจ
2.วัตถุประสงค์ (เด็กจะต้องมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการทดลองให้ได้มากที่สุด)
3.วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
4.ขั้นตอนการทดลอง
5.ผลการทดลองที่เด็กจะได้รับ
Wednesday 17 October 2018
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะนำเอาไปจัดกิจกรรมให้เด็กได้ปฏิบัติจริงและได้ฝึกการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก โดยอาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มเลือกกิจกรรมมากลุ่มละ 1 กิจกรรม มีหลักการในการเขียนโครงการ ดังนี้
1.ชื่อโครงการ
2.หลักการและเหตุผล
3.เวลาและสถานที่ /งบประมาณ
4.ตารางการทำกิจกรรมต่างๆ
5.วิธีการประเมินผ
6.การแบ่งหน้าที่
ซึ่งกิจกรรมการทดลองในแต่ละกลุ่มจะต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.ตั้งชื่อกิจกรรมให้มีความน่าสนใจ
2.วัตถุประสงค์ (เด็กจะต้องมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการทดลองให้ได้มากที่สุด)
3.วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
4.ขั้นตอนการทดลอง
5.ผลการทดลองที่เด็กจะได้รับ
Learning log 7
Wednesday 10 October 2018
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษานำเสนอต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว
กิจกรรมที่ 11 ฟองสบู่
สมมติฐานในการทดลอง
1.น้ำกับน้ำยาล้างจานเมื่อผสมกันจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 เทน้ำลงในกะละมังในปริมาณ 1/4 ของขวดและผสมน้ำยาล้างจาน 5 ช้อนและคนให้เข้ากันต่อมาดัดลวดเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น ทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม วงรี จากนั้นนำมาพันกับลวดกำมะหยี่ต่อมาให้นำลวดมาจุ่มกับน้ำยาที่ผสมกันในกะละมังและยกขึ้นมาเป่าถ้าอยากให้เป็รูปต้องใส่น้ำยาล้างจานเยอะๆ
สรุปผลการทดลอง
เมื่อผสมน้ำกับน้ำยาล้างจานจะเกิดเป็นลูกโป่งขึ้นมาแม้แต่จะเอารูปทรงต่างๆมาเป่าก็เป็นทรงกลมอยู่ดี
กิจกรรมที่ 12 ลูกโป่งพอโต
สมมติฐานในการทดลอง
1.เบคกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูผสมกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำเบคกิ้งมาใส่ในลูกโป่งใส่ให้เยอะๆและนำน้ำส้มสายชูมาใส่ในขวดน้ำจากนั้นนำลูกโป่งมาใส่บนขวดน้ำเบคกิ้งโซดาที่อยู่ในลูกโป่งก็จะลงไปในน้ำส้มสายชูทำให้เป็นฟองฟู่เกิดลูกโป่งเป็นลูกโป่งพองโต
สรุปผลการทดลอง
เมื่อเบคกิ้งโซดาที่อยู่ในลูกโป่งตกลงไปในขวดที่มีน้ำส้มสายชูจะเกิดเป็นฟองฟู่เป็นลูกโป่งพองโตขึ้นมาก็เพราะว่าอากาศจะลอยเข้าไปในลูกโป่งทำให้ลูกโป่งพองโต
กิจกรรมที่ 13 แยกเกลือกับพริกไทย
สมมติฐานในการทดลอง
1.จะมีวิธีแยกเกลือกับพริกไทยออกจากกันได้อย่างไร
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำเกลือผสมกับพริกไทยลงในจานและนำช้อนมาถูกับผ้าขนสัตว์แล้วสังเกตว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สรุปผลการทดลอง
จะเกิดไฟฟ้าสถิตเคลื่อนที่ทำให้ดูดพริกไทยลอยขึ้นมาได้
กิจกรรมที่ 14 ภาพซ้ำไปมา
สมมติฐานในการทดลอง
1.เราจะสามสารถต่อภาพได้อย่างไร
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 วาดรูปนกและระบายสีจากนั้นให้ตัดรูปกระดาษภาพนกแล้วนำมาเรียงต่อกันและสังเกต
สรุปผลการทดลอง
เด็กๆได้ฝึกทักษะการต่อภาพไปในทิศทางเดียวกัน
กิจกรรมที่ 14 ระฆังดำน้ำ
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้านำเอาขวดน้ำกดลงไปในแก้วน้ำจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำขวดจุ่มลงไปในแก้วน้ำเปิดฝาขวดน้ำออกแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง
การทดลองที่ 2 นำเอาเรืองดำน้ำจุ่มลงไปในแก้วน้ำแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงเหมือนการทดลองที่ 1
สรุปผลการทดลอง
อากาศจะลอยขึ้นมาบนผิวแก้วทำใหน้ำเข้าไปแทนที่เพราะในอากาศมีแรงดันและอากาศลอยขึ้นมาบนผิวแก้วทำให้เรือดำน้ำไม่เปียก
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจฟังที่เพื่อนนำเสนองานเป็นอย่างดี อาจมีพูดคุยบ้างเล็กน้อย
ประเมินเพื่อน :เพื่อนๆมีการเตรียมความพร้อมกันมาอย่างดี ตั้งใจเสนอผลงานของตัวเอง
ประเมินอาจารย์ :อาจารย์อธิบายลายละเอียดเพิ่มเติมให้ทุกกิจกรรม
Wednesday 10 October 2018
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษานำเสนอต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว
กิจกรรมที่ 11 ฟองสบู่
สมมติฐานในการทดลอง
1.น้ำกับน้ำยาล้างจานเมื่อผสมกันจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 เทน้ำลงในกะละมังในปริมาณ 1/4 ของขวดและผสมน้ำยาล้างจาน 5 ช้อนและคนให้เข้ากันต่อมาดัดลวดเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น ทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม วงรี จากนั้นนำมาพันกับลวดกำมะหยี่ต่อมาให้นำลวดมาจุ่มกับน้ำยาที่ผสมกันในกะละมังและยกขึ้นมาเป่าถ้าอยากให้เป็รูปต้องใส่น้ำยาล้างจานเยอะๆ
สรุปผลการทดลอง
เมื่อผสมน้ำกับน้ำยาล้างจานจะเกิดเป็นลูกโป่งขึ้นมาแม้แต่จะเอารูปทรงต่างๆมาเป่าก็เป็นทรงกลมอยู่ดี
กิจกรรมที่ 12 ลูกโป่งพอโต
สมมติฐานในการทดลอง
1.เบคกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูผสมกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำเบคกิ้งมาใส่ในลูกโป่งใส่ให้เยอะๆและนำน้ำส้มสายชูมาใส่ในขวดน้ำจากนั้นนำลูกโป่งมาใส่บนขวดน้ำเบคกิ้งโซดาที่อยู่ในลูกโป่งก็จะลงไปในน้ำส้มสายชูทำให้เป็นฟองฟู่เกิดลูกโป่งเป็นลูกโป่งพองโต
สรุปผลการทดลอง
เมื่อเบคกิ้งโซดาที่อยู่ในลูกโป่งตกลงไปในขวดที่มีน้ำส้มสายชูจะเกิดเป็นฟองฟู่เป็นลูกโป่งพองโตขึ้นมาก็เพราะว่าอากาศจะลอยเข้าไปในลูกโป่งทำให้ลูกโป่งพองโต
กิจกรรมที่ 13 แยกเกลือกับพริกไทย
สมมติฐานในการทดลอง
1.จะมีวิธีแยกเกลือกับพริกไทยออกจากกันได้อย่างไร
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำเกลือผสมกับพริกไทยลงในจานและนำช้อนมาถูกับผ้าขนสัตว์แล้วสังเกตว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สรุปผลการทดลอง
จะเกิดไฟฟ้าสถิตเคลื่อนที่ทำให้ดูดพริกไทยลอยขึ้นมาได้
กิจกรรมที่ 14 ภาพซ้ำไปมา
สมมติฐานในการทดลอง
1.เราจะสามสารถต่อภาพได้อย่างไร
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 วาดรูปนกและระบายสีจากนั้นให้ตัดรูปกระดาษภาพนกแล้วนำมาเรียงต่อกันและสังเกต
สรุปผลการทดลอง
เด็กๆได้ฝึกทักษะการต่อภาพไปในทิศทางเดียวกัน
กิจกรรมที่ 14 ระฆังดำน้ำ
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้านำเอาขวดน้ำกดลงไปในแก้วน้ำจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำขวดจุ่มลงไปในแก้วน้ำเปิดฝาขวดน้ำออกแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง
การทดลองที่ 2 นำเอาเรืองดำน้ำจุ่มลงไปในแก้วน้ำแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงเหมือนการทดลองที่ 1
สรุปผลการทดลอง
อากาศจะลอยขึ้นมาบนผิวแก้วทำใหน้ำเข้าไปแทนที่เพราะในอากาศมีแรงดันและอากาศลอยขึ้นมาบนผิวแก้วทำให้เรือดำน้ำไม่เปียก
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจฟังที่เพื่อนนำเสนองานเป็นอย่างดี อาจมีพูดคุยบ้างเล็กน้อย
ประเมินเพื่อน :เพื่อนๆมีการเตรียมความพร้อมกันมาอย่างดี ตั้งใจเสนอผลงานของตัวเอง
ประเมินอาจารย์ :อาจารย์อธิบายลายละเอียดเพิ่มเติมให้ทุกกิจกรรม
Learning log 6
Wednesday 3 October 2018
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษานำเสนอกิจกรรมของตนเองที่ได้สรุปในอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยอาจารย์ได้ให้นำแนะนำก่อนนักศึกษาจะออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ดังต่อไปนี้
Wednesday 3 October 2018
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษานำเสนอกิจกรรมของตนเองที่ได้สรุปในอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยอาจารย์ได้ให้นำแนะนำก่อนนักศึกษาจะออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ดังต่อไปนี้
- ผู้สอนจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทดลองให้เรียบร้อยและให้เรียงลำดับจากเล็กไปหาใหญ่สิ่งของชิ้นไหนที่เล็กควรตั้งไว้ด้านหน้า ต้องมีการกำกับติดป้ายหมายเลขที่ภาชนะให้เรียบร้อย ภาชนะชิ้นไหนเป็นชิ้นที่หนึ่งและสองกำกับให้เรียบร้อย
- ในการสอนผู้สอนจะต้องแนะนำอุปกรณ์ให้ครบทุกชนิดและให้ถามผู้เรียนว่า ของชิ้นนี้เด็กๆสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง เด็กๆเคยเห็นที่ไหน ในระหว่างที่ถามผู้สอนก็จะต้องอธิบายอย่างละเอียดเพื่อให้เด็กเข้าใจ
- ผู้สอนร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมกับเด็กตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สิ่งแรกที่จะทำในกระบวนการสอนคือ การตั้งปัญหาสมติฐานในการทดลองว่าการทดลองนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
- ผู้สอนจะต้องให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำการทดลองเพื่อให้เด้กเกิดความสนุกสนานไม่เบื่อหน่าย
- ผู้สอนจะต้องมีการสรุปผลการทดลองอย่างละเอียด
กิจกรรมที่ 1 ปั้มขวดและลิปเทียน
สมมติฐานในการทดลอง
1.ขวดที่ร้อนจะเกิดอะไรขึ้นกับน้ำสี
2.น้ำสีจะเกิดอะไรขึ้นกับเทียนที่จุดไฟ
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 เทน้ำสีในจานที่ 1 จากนั้นใส่น้ำร้อนในขวดและเขย่าจนเกิดความร้อนและเทน้ำออกจากนั้นเอาขวดมาคว่ำลงบนจาน
การทดลองที่ 2 เทน้ำสีลงจานที่ 2 จุดเทียนหอมวางไว้บนจานที่ 2และนำแก้วมาครอบเทียนที่จุดเอาไว้
สรุปผลการทดลอง
การที่อุณหภูมิสูงขึ้นอากาศก็จะลอยขึ้นไปบนขวดทำให้มีน้ำเข้าไแทนที่และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นอากาศในแก้วก็จะสูงขึ้นตามน้ำจึงเข้าไปแทนที่ทำให้เทียนที่จุดไฟดับ
กิจกรรมที่ 2 เมล็ดถั่วเต้นระบำ
สมมติฐานในการทดลอง
1.น้ำโซดาที่เทลงไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเมล็ดถั่วเขียว
2.น้ำที่เทลงไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเมล็ดถั่วเขียว
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 ใส่เมล็ดถั่วเขียวลงไปในแก้วโดยการใช้ช้อนตวงเมล็ดถั่วเขียวจากนั้นก็ใส่น้ำโซดาลงไปในแก้วที่เตรียมไว้
การทดลองที่ 2 ทำเหมือนการทดลองที่ 1 แต่เปลี่ยนจากน้ำโซดาเป็นน้ำเปล่า
สรุปผลการทดลอง
น้ำโซดามีแก๊สที่มีน้ำหนักเบากว่าน้ำจึงทำใหเมล็ดถั่วเขียวเกิดจากลอยตัวขึ้น (แก๊สคาร์บอนไดออกไซค์)
กิจกรรมที่ 3 แรงตึงผิว
สมมติฐานการในการทดลอง
1.น้ำในแก้วจะนำไปทำอะไรได้บ้าง
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำน้ำเทลงไปในก้วน้ำให้เต็มแก้วจะเกิดน้ำนูนสูงขึ้นมา
การทดลองที่ 2 ใช้หลอดน้ำดูดน้ำขึ้นนมาแล้วนำน้ำไปหยดลงฝาขวดให้เต็ม ใส่จนเกิดน้ำนูนสูงขึ้นมา
สรุปผลการทดลอง
น้ำมีแรงตึงผิวทำให้น้ำที่เกิดการนูนไม่ล้นออกมา
กิจกรรมที่ 4 แสง
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้านำเอาไฟมาส่องกับแก้วจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำแก้วมาวางไว้บนโต๊ะจากนั้นใช้ไฟส่อง
การทดลองที่ 2 นำแก้วทั้งสองใบตั้งให้มีระยะห่างที่เท่ากันไม่ต้องห่างกันมากจากนั้นใช้ไฟส่องเหมือนการทดลองที่ 1
สรุปผลการทดลอง
เมื่อมีการนำไฟไปส่องที่แก้ว แสงจะมีการตกกระทบและเมื่อนำแก้วทั้งสองใบมาวางในระยะห่างที่เท่ากันแก้วใบที่ 1 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าแก้วใบที่ 2
กิจกรรมที่ 5 กระจกเงา
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้ามีการวาดรูปในกระดาษแล้วนำกระจกมาส่องจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 วาดรูปในกระดาษที่เตรียมเอาไว้แค่ครึ่งรูปแล้วนำกระจกมาส่องที่กระดาษโดยมีการวางของกระดาษในแนวตั้งฉากกับกระจก
สรุปผลการทดลอง
การเกิดแสงสะท้อนของเงาทำให้เห็นรูปภาพที่วาดเอาไว้มีขนาดเต็ม
กิจกรรมที่ 6 ไหลแรงไหลค่อย
สมมติฐานในการทดลอง
1.ถ้าเจาะรูบนขวดน้ำ น้ำจะไหลออกมาได้เร็วหรือช้า
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 นำขวดน้ำที่เตรียมไว้มาเจาะรูโดยมีการเจาะคือ เจาะรูบนขวดและเจาะล่างขวดแล้วนำสก๊อตเทปมาปิดรูที่เจาะเอาไว้และเทน้ำใส่ในขวดที่เจาะรูเอาไว้ให้เต็มขวด
การทดลองที่ 2 นำขวดน้ำที่เจาะรูมาวางไว้บนถาดและนำสก๊อตเทปที่ตดเอาไว้ดึงออกและให้น้ำในขวดไหลออกมา
สรุปผลการทดลอง
รูที่เจาะด้านล่างจะมีน้ำไหลออกมาได้เร็วกว่ารูด้านบน
กิจกรรมที่ 7 ดินน้ำมันสู่ยอดปราสาท
สมมติฐานการทดลอง
1.ดินน้ำมันสามารถปั้นเป็นรูปอะไรได้บ้าง
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 ผู้สอนให้เด็กๆปั้นดินน้ำมันเป็นรูปทรงกลมจากนั้นให้เด้กกดดินน้ำมันด้านบนและด้านข้าง เพื่อให้ได้รูปทรงสี่เหลี่ยม จากนั้นให้กดทุกด้านให้มีรูปดินน้ำมันยอดปราสาทให้มีขนาดเท่ากัน จะได้รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและเด็กๆปั้นดินน้ำมันเป็นยาวๆและกลิ้งให้มีพื้นที่เรียบที่สุดและหลังจากนั้นให้เด็กปั้นดินน้ำมันตามจินตนาการของเด็ก เมื่อได้ดินน้ำมันเป็นรูปทรงต่างๆแล้วให้เด็กใช้เส้นด้ายมาตัดที่ดินน้ำมันแล้วผู้สอนให้เด็กๆโชวืดินน้ำมันของตัวเองว่าเป็นรูปอะไร
สรุปผลการทดลอง
เด็กๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ
กิจกรรมที่ 8 ท่วงทำนองตัวเอง
สมมติฐานการทดลอง
1.การนับจำนวนของตัวเลขมีการนับอย่างไรบ้าง
2.จำนวนเลขคู่ เลขคี่ในการนับ
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 ผู้สอนตัดกระดาษโดยมีข้อกำหนดว่าต้องเป็นี่เหลี่ยมจัตุรัสและพับมุมทั้ง 4 มุมให้ได้รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่มีขนาดเท่ากันให้หมดทุกด้านและพลิกกระดาษและพับมุมกระดาษทั้ง 4 มุมให้เท่ากันเหมือนเดิมและให้ระบายสีทั้งสี่ช่องโดยจะต้องมีสีทีเหมือนกันอยู่สองช่องและคลี่กระดาษให้เด็กๆนับและทายว่าเป็นสีอะไร
สรุปผลการทดลอง
เด็กได้ฝึกการนับเลขไปในตัวและรู้จักสีได้มากขึ้น
กิจกรรมที่ 9 พับและตัด
สมมติฐานการทดลอง
1.เมื่อหยดสีลงบนกระดาษจะเกิดเป็นรูปอะไร
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดองที่ 1 ให้เด็กพับกระดาษโดยการแบ่งครึ่งของกระดาษให้เท่าๆกันและหยดสีลงบนกระดาษและปิดกระดาษลงและกดกระดาษตรงที่ๆมีสีและให้เด็กๆหยุดสีลงบนจุดกึ่งกลางของกระดาษและปิดนับแล้วเอาเส้นด้ายมาหมุนวนตามเข็มนาฬิกา
สรุปผลการทดลอง
ในการดึงได้จะได้รูปในลักษณะต่างๆ
กิจกรรมที่ 10 แสง สี และการมองเห็น
สมมติฐานการทดลอง
1.ทำไมกระดาษสีที่มีสีเดียวกันถึงมองรูปภาพไม่เห็น
ขั้นตอนการทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลองที่ 1 วาดรูปลงบนกระดาษโดยการใช้สี 3 สี เช่น สีเขียว แดง น้ำเงิน จากนั้นนำกระดาษแก้วมาวางบนแผ่นที่วาดรูปเอาไว้
สรุปผลการทดลอง
กระดาษที่มีสีเดียวกันไม่สามารถเห็นรูปที่วาดเอาไว้ได้
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจนำเสนออย่างดีอาจจะมีผิดพลาดบ้างแต่จะนำไปแก้ไขปรับปรุง
ประเมินเพื่อน :วันนี้เพื่อนมาเรียนน้อยแต่นำเสนอได้ดีได้ครบทุกคน
ประเมินอาจารย์ :มีการอธิบายเพิ่มเติมให้อย่างละเอียด แนะนำการนำเสนอของนักศึกษาทุกคน ถือเป็นเรื่องที่ดี
วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561
Learning log 5
Wednesday 19 September 2018
วันนี้อาจารย์แจกใบกิจกรรมของบ้านวิทยาศาสตร์ให้กับทุกคนในกลุ่มและให้นักศึกษาสรุปกิจกรรมของตัวเอง
กิจกรรมของหนูคือ ท่วงทำนองของตัวเลข (จำคู่และจำนวนคี่)
วัสดุอุปกรณ์
เด็กๆจะได้เรียนรู้การแบ่งสมาชิกออกเป็น 2 กลุ่มเท่าๆกันถ้าสมาชิกในกลุ่มเป็นจำนวนคี่ จะมีหนึ่งคนในกลุ่มที่ไม่มีคู่
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจทำงานกับสิ่งที่อาจารย์ได้มอบหมาย ทำงานเสร็จภายในเวลาที่กำหนด
ประเมินเพื่อน :เพื่อนอาจมีคุยกันในเวลาทำงานกันบ้างแต่ทุกคนตั้งใจทำงานของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยในเวลาค่ะ
ประเมินอาจารย์ :ให้คำอธิบายอย่างละเอียดในกิจกรรมที่นักศึกษาไม่เข้าใจ
Wednesday 19 September 2018
วันนี้อาจารย์แจกใบกิจกรรมของบ้านวิทยาศาสตร์ให้กับทุกคนในกลุ่มและให้นักศึกษาสรุปกิจกรรมของตัวเอง
กิจกรรมของหนูคือ ท่วงทำนองของตัวเลข (จำคู่และจำนวนคี่)
วัสดุอุปกรณ์
- กระดาษสีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
- ดินสอสีหลายๆแท่งคละสี
- ลูกอม ตัวต่อ หรือลูกแก้ว
- แบ่งเด็กๆออกเป็น 2 กลุ่มให้มีจำนวนเท่ากัน โดยให้เด็กๆ ช่วยกันคิด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี
- หลังจากแบ่งกลุ่มให้นับจำนวนของสมาชิกแต่ละกลุ่มว่ามีจำนวนเท่ากันหรือไ่
- ให้เด็กแบ่งลูกอมเป็นสองกองให้มีจำนวนเท่ากัน (อาจจะเริ่มนับ 1 ไปถึง 10) ให้เด็กสังเกตว่าลูกอมต้องมีจำนวนเท่าไร จึงสมารถแบ่งออกเป็น 2 กองเท่าๆกันได้
เด็กๆจะได้เรียนรู้การแบ่งสมาชิกออกเป็น 2 กลุ่มเท่าๆกันถ้าสมาชิกในกลุ่มเป็นจำนวนคี่ จะมีหนึ่งคนในกลุ่มที่ไม่มีคู่
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจทำงานกับสิ่งที่อาจารย์ได้มอบหมาย ทำงานเสร็จภายในเวลาที่กำหนด
ประเมินเพื่อน :เพื่อนอาจมีคุยกันในเวลาทำงานกันบ้างแต่ทุกคนตั้งใจทำงานของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยในเวลาค่ะ
ประเมินอาจารย์ :ให้คำอธิบายอย่างละเอียดในกิจกรรมที่นักศึกษาไม่เข้าใจ
Learning log 4
Wednesday 29 August 2018
วันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง ความหมายของวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์
หมายถึง ความรู้ต่างๆในธรรมชาติ และกระบวนการค้นคว้าหาความรู้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 5 ขั้น เป็นกระบวนการต่อเนื่องวัฏจักร ทักษะพื้นฐานที่ต้องนำมาใช้ในกระบวนการคือ การสังเกต การจำแนกและเปรียบเทียบ การวัด การสื่อสาร การทดลอง การสรุปและนำไปใช้
ตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้ (หาเพิ่มเติ่ม)
กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สามารถบูรณาการไปกับกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ศิลปะและภาษาหรือนำกิจกรรมอื่น ๆมาประสานด้วยได้ข้อสำคัญต้องให้เด็กได้เรียนรู้จากการสังเกตและทดลอง ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัยในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
1.กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 3 – 4 ขวบ
กิจกรรมสำหรับเด็กวัยนี้ให้มีการทดลองได้ เด็กสามารถเข้าใจมากขึ้น รวบรวมข้อมูลเป็น สรุปเป็น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของกิจกรรม
พัฒนาการทางปัญญาเป็นความสามารถทางสมองในการรวบรวมประสบการณ์และความรู้มาเป็นพื้นฐานของการคิดเหตุผล ช่วยให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถแก้ปัญหาได้ และสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถเหล่านี้สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นกับเด็กปฐมวัยด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทางปัญญา การพัฒนาทางสติปัญญา ไม่ใช่การเพิ่มระดับไอคิว แต่การพัฒนาทางสติปัญญาเน้นการเพิ่มพัฒนาการทางสติปัญญา
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจฟัง จดบ้าง โต้ตอบกับสิ่งที่อาจารย์ถาม
ประเมินเพื่อน :เพื่อนมาสายบ้าง แต่ตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังและตอบในสิ่งที่อาจารย์ถาม
ประเมินอาจารย์ :สอนเข้าใจ สนุก อธิบายอย่างละเอียด
Wednesday 29 August 2018
วันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง ความหมายของวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์
หมายถึง ความรู้ต่างๆในธรรมชาติ และกระบวนการค้นคว้าหาความรู้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 5 ขั้น เป็นกระบวนการต่อเนื่องวัฏจักร ทักษะพื้นฐานที่ต้องนำมาใช้ในกระบวนการคือ การสังเกต การจำแนกและเปรียบเทียบ การวัด การสื่อสาร การทดลอง การสรุปและนำไปใช้
- การสังเกต ครูต้องสอนให้เด็กรู้จักสังเกตใช้เทคนิคการสังเกตเป็น เด็กต้องได้รับการสอนให้รู้จักสังเกตปรากฏการณ์หรือการกระทำอย่างระมัดระวังและถี่ถ้วน จากการสังเกตนอกจากการใช้ ตาดู เด็กอาจต้องใช้หูฟัง จมูกดมกลิ่น ลิ้นชิมรส กายสัมผัสหรือรับความรู้สึก หรือใช้ทุกอย่างร่วมกัน
- การจำแนกเปรียบเทียบ การจำแนกเป็นทักษะพื้นฐานที่ใช้ในการจัดระเบียบข้อมูล ซึ่งในการจำแนกนี้เด็กต้องสามารถเปรียบเทียบและบอกข้อแตกต่างของคุณสมบัติ ถ้าเด็กเล็กมาก เด็กอาจจำแนกสีหรือจำแนกรูปร่างได้ การจำแนกหรือเปรียบเทียบสำหรับเด็กปฐมวัย ต้องใช้คุณสมบัติหยาบ ๆ เห็นรูปธรรมเด็กจึงจะทำได้
- การวัด การวัดเป็นกระบวนการรวบรวมข้อมูลและตัดสินเพื่อบอกว่าขนาด ปริมาณของสิ่งที่เห็นคืออะไร เด็กปฐมวัยจึงใช้การวัดเป็นการเปรียบเทียบเชิงปริมาณโดยสามารถใช้เครื่องมือวัดอย่างหยาบได้ สามารถบอกมาก-น้อยกว่ากันได้
- การสื่อสาร ทักษะการสื่อสารจำเป็นมากในกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพราะการสื่อสารเป็นทางบอกว่าเด็กได้ สังเกต จำแนก เปรียบเทียบ หรือวัด เป็นหรือไม่ เข้าใจข้อมูลหรือสิ่งที่ศึกษาในระดับใด ด้วยการกระตุ้นให้เด็กแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน อภิปรายข้อค้นพบ บอก และบันทึกสิ่งที่พบ
- การทดลอง เด็กปฐมวัยเป็นนักทดลองมาโดยกำเนิด เช่น การรื้อค้น การกระแทก การทุบ การโยนสิ่งของหรือการเล่น จากการเล่นเป็นการเรียนรู้ ซึ่งมักเป็นการทดลองแบบลองผิดลองถูก แต่การทดลองทางวิทยาศาสตร์จะถูกจัดระเบียบมากขึ้น มีการควบคุมให้เด็กทำอย่างมีระเบียบวิธี มีการสังเกตอย่างมีความหมาย เช่น การทดลองการกระจายของหยดสีในน้ำที่มีความเข้มข้นไม่เท่ากัน เด็กจะสังเกตเห็นสีสด สีจาง ต่างกัน
- การสรุปและการนำไปใช้ เด็กปฐมวัยมีความสามารถสรุปได้เฉพาะข้อมูลเชิงประจักษ์ เด็กสามารถบอกว่าอะไรเกิดขึ้น สาเหตุใด มีผลอย่างไร แต่เป็นไปตามสายตาที่เห็นเป็นรูปธรรมเท่านั้น ซึ่งการทดลองวิทยาศาสตร์ ทำให้เด็กเห็นจริงกับตา สัมผัสกับมือ เด็กจะบอกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น การได้ฝึกทักษะอย่างเป็นกระบวนการจะทำให้เด็กสามารถบอกได้ว่าจะนำไปใช้ทำอะไร หรือนำไปใช้แก้ปัญหาอย่างไรได้ด้วย
ตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้ (หาเพิ่มเติ่ม)
กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สามารถบูรณาการไปกับกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ศิลปะและภาษาหรือนำกิจกรรมอื่น ๆมาประสานด้วยได้ข้อสำคัญต้องให้เด็กได้เรียนรู้จากการสังเกตและทดลอง ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัยในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
1.กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 3 – 4 ขวบ
- สังเกตสัตว์เลี้ยง โดยให้เด็กไปดูปลา สัมผัสแมว ได้ลูบหมา
- สังเกตพืช จำแนกส่วนประกอบของพืช ส่วนประกอบของผลไม้ สังเกตดอกไม้ และใบไม้
- สังเกตรังของสัตว์ต่าง ๆ
- ทดลองเลี้ยงสัตว์ ให้อาหารสัตวN
- สังเกตสัตว์ในธรรมชาติ เช่น ดูนก ดูผีเสื้อ ดูแมลง
กิจกรรมสำหรับเด็กวัยนี้ให้มีการทดลองได้ เด็กสามารถเข้าใจมากขึ้น รวบรวมข้อมูลเป็น สรุปเป็น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของกิจกรรม
- จำแนกเมล็ดพืช จำแนกใบไม้ จำแนกสิ่งต่าง ๆ ที่หาได้
- สังเกตสัตว์เลี้ยง เพื่ออธิบายลักษณะ นิสัย หรือวิธีการดูแล
- สังเกตธรรมชาติ เช่น กลางวัน กลางคืน อุณหภูมิ
- สังเกตการงอกของต้นไม้
- ทำสวนครัว ปลูกต้นไม้
- ศึกษาวงจรชีวิตสัตว์ต่าง ๆ เช่น ตัวไหม ผีเสื้อ กบ
- ดูการฝักไข่ เก็บไข่ การปลูกเห็ด เก็บผลไม้ต่าง ๆ
พัฒนาการทางปัญญาเป็นความสามารถทางสมองในการรวบรวมประสบการณ์และความรู้มาเป็นพื้นฐานของการคิดเหตุผล ช่วยให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถแก้ปัญหาได้ และสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถเหล่านี้สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นกับเด็กปฐมวัยด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทางปัญญา การพัฒนาทางสติปัญญา ไม่ใช่การเพิ่มระดับไอคิว แต่การพัฒนาทางสติปัญญาเน้นการเพิ่มพัฒนาการทางสติปัญญา
ประเมินตัวเอง :ตั้งใจฟัง จดบ้าง โต้ตอบกับสิ่งที่อาจารย์ถาม
ประเมินเพื่อน :เพื่อนมาสายบ้าง แต่ตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังและตอบในสิ่งที่อาจารย์ถาม
ประเมินอาจารย์ :สอนเข้าใจ สนุก อธิบายอย่างละเอียด
วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561
Media
สื่อ เรื่อง แสงกับการมองเห็น
นำเสนอบทเรียนวิทยาศาสตร์ที่มีสาระสำคัญคือ แสงจำเป็นต่อการมองเห็น โดยเน้นฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และตอบสนองนโยบายที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้บนพื้นฐานของการเล่น (play-based learning) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้นป.1
เฮเลน เอเคอร์แมนเป็นครูใหม่ที่เคยทำงานเป็นพยาบาลในเนิร์สเซอรี่มานานหลายปี ในนี้เธอสอนชั้นอนุบาล 3 ที่โรงเรียนประถมโคดิโคตในเมืองเฮิร์ตฟอร์ดเชอร์ เฮเลนไม่ได้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เธอจึงทำงานร่วมกับ เจน เทอร์เนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผู้มาช่วยเธอวางแผนและเตรียมการสอนสำหรับบทเรียนที่สนุกสนานคาบนี้
เฮเลนนำเข้าสู่บทเรียนโดยใช้นิทานเกี่ยวกับลูกหมีตัวหนึ่งซึ่งกลัวความมืด เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา จากนั้น เธอจึงตั้งคำถามกระตุ้นความคิดว่าเด็ก ๆ รู้อะไรเกี่ยวกับแสงแล้วบ้าง ชวนให้เด็ก ๆ นึกถึงที่มืดที่เคยไป แล้วจึงสอนคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ ๆ หลังจากนั้น เฮเลนก็จัดกิจกรรมการสืบค้น 2 กิจกรรมหลัก ที่เชื่อมโยงเรื่องแสงกับแหล่งกำเนิดแสงและเรื่องราวในนิทาน
สื่อ เรื่อง แสงกับการมองเห็น
เฮเลน เอเคอร์แมนเป็นครูใหม่ที่เคยทำงานเป็นพยาบาลในเนิร์สเซอรี่มานานหลายปี ในนี้เธอสอนชั้นอนุบาล 3 ที่โรงเรียนประถมโคดิโคตในเมืองเฮิร์ตฟอร์ดเชอร์ เฮเลนไม่ได้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เธอจึงทำงานร่วมกับ เจน เทอร์เนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผู้มาช่วยเธอวางแผนและเตรียมการสอนสำหรับบทเรียนที่สนุกสนานคาบนี้
เฮเลนนำเข้าสู่บทเรียนโดยใช้นิทานเกี่ยวกับลูกหมีตัวหนึ่งซึ่งกลัวความมืด เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา จากนั้น เธอจึงตั้งคำถามกระตุ้นความคิดว่าเด็ก ๆ รู้อะไรเกี่ยวกับแสงแล้วบ้าง ชวนให้เด็ก ๆ นึกถึงที่มืดที่เคยไป แล้วจึงสอนคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ ๆ หลังจากนั้น เฮเลนก็จัดกิจกรรมการสืบค้น 2 กิจกรรมหลัก ที่เชื่อมโยงเรื่องแสงกับแหล่งกำเนิดแสงและเรื่องราวในนิทาน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)